วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"


เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
เตรียมขนมปัง ไข่ ชีส และเนย ไว้พร้อม
เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
ใช้ขอบแก้วมากดลงไปตรงกลางของขนมปัง
เพื่อทำให้เกิดเป็นช่องรูปวงกลม (สามารถทำเป็นรูปอื่นก็ได้นะจ๊ะ)
เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
ใส่เนยประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง
ปิ้งขนมปังทั้ง 2 ส่วน ให้เหลืองกรอบเล็กน้อย
เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
ใส่เนยลงไปในช่องวงกลมของขนมปัง เมื่อเนยละลายแล้วก็ให้ตอกไข่ใส่ลงไป
เหยาะเกลือลงไปเล็กน้อย ให้ไข่สุกแค่พอพลิกขนมปังกลับด้านได้ก็พอนะจ๊ะ
ไม่ต้องสุกจนเกินไป ส่วนขนมปังวงกลมก็ให้นำชีสมาวางไว้ข้างบน
เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
เมื่อกลับด้านขนมปังเรียบร้อยแล้ว ก็นำชีสมาวางลงไป
แล้วนำขนมปังอีกแผ่นมาประกบลงไป
ปิ้งต่อไปอีก 1 -2 นาที จนกระทั่งชีสไหลเยิ้ม หลังจากนั้นก็เอาขึ้นจากกระทะ
เด็กดีดอทคอม :: เมนูชวนหิว "แซนด์วิชไข่เจาะรู"
มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้ว...วะว้าว



credit; www.dek-d.com

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความจริง 80 ข้อ ของวีวิตเด็กไทย

1.โรงเรียนรัฐบาล เรียนหนัก วันละ 7-8 คาบ
2.เมื่อมีคาบว่าง คุณครูวิชาใดวิชาหนึ่ง มักขอ
3.รร.เอกชน เด็กนักเรียนไม่เคร่งกฏ;4.รร.ที่เก่าแก่ ยึดติดศักดิ์ศรีมากเกินไป บ่มเพาะให้เด็กเป็นศัตรูกับสถาบันอื่น
5.รร.รัฐบาล เข้าแถวหน้าเสาธง ฟัง ผอ.ให้โอวาทก่อนเข้าคาบแรก,แต่กิน เวลาไป 10-20 นาที
6.เด็กต้องตากแดด ร้อน หน้ามืดเป็นลม2
  p" v1 r: `3 m' ?' W/ B# `
7.บาง รร. ผิดกฏนิดหน่อย ก็เรียกผู้ปกครอง ทั้งๆที่ควรจะตักเตือนก่อน1
8.เด็กไทยขนหนังสือในกระเป๋าเป็นสิบกิโล หลังงอไปโรงเรียน
(รวมทั้งนิยายและการ์ตูน หนังสือ**)# ^
9.การบ้าน งานต่างๆ ฝึกให้นักเรียนรับผิดชอบก็จริง แต่สั่งทีเยอะ
แล้ววันนึงเรียนกี่วิชา ครูคนนึงสั่งกี่อย่าง? เด็กตายห่-า พอดี

10.มา รร. เช้า ลอกการบ้าน แล้วเด็กได้อะไร จากการสั่งงานเยอะ
5 e# D  S+ x/ M6 p8 s
11.หลับตี 1-2 พิมพ์รายงานส่ง

12.เนื้อหารายงานมาจากอินเตอร์เน็ต หามา ก็อปใส่เวิด ปริ้น เข้าเล่ม ส่ง

13.พรีเซนต์งานโดยการออกมาอ่าน-

14.ครูแก่ เกินรับได้ โบราณ

15.คนเก่งไปเรียนหมอ แล้วใครมาเป็นครู?2
16.รร.ในไทย แต่งยูนิฟอร์ม ชุดนักเรีย ชุดพละ ชุดลูกเสือ ทั้งที่อากาศร้อนจัด&
17.มีเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือเยอะแยะ3
18.มีเด็กที่ได้เรียน แต่ไม่อยากเรียน
19.พ่อแม่เสียเงินค่าเรียนพิเศษ มากว่า ค่าเทอม มากเป็นเท่าตัว
6 Y: l) U) ~3 H7 N9 v. ^, N
20.ต่างประเทศ ปิดเทอม ไปเที่ยว ทำงานพิเศษ ทำกิจกรรม

21.เด็กไทยเรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลัง+ L9
22.มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย ไม่ติดใน 100 มหาวิทยาลัยโลก

23. บาง รร.จ่ายค่าเรียนคอมพิวเตอร์ทุกปี แต่ว่า ได้เรียนแค่ ม.1และม.4 = =
: b8 q9 n5 A* B( U+ p% B
24.ครูบางคน การสอนคือการอ่านให้เด็กฟัง

25.ครูบางคน สอนไม่รู้เรื่อง ออกข้อสอบหิน เด็กตก ไม่ยอมให้แก้7 \4

26.ครู ขายของแก่นักเรียน ทำธุรกิจ ทดลองสินค้าในห้องเรียน ตั้งแต่ของเล็กๆน้อยๆ ยันถึงกิฟฟารีน แอมเวย์
6 O! F2 C! u8 q+ f/ w& _
27.ครูไม่สอน นั่งบ่นเรื่องที่ไม่ในตำรา แต่นักเรียนชอบฟัง(เพราะไม่ได้เรียน)

28.เวลาว่างที่ รร. นร.นั่งนินทาครู

29.ปัจจุบัน ทั่วไปคิดว่า ครู แค่คือ คนที่รับจ้างสอน ไม่ใช่แม่พิมพ์ที่แท้จริง* ( N
" a- L9 a. l3 `' ~  ?3 m, k4 N
30.สอนไป ทุก10 นาที โทรศัพท์ดัง1 Qe

31.ครูใช้เด็กซื้อกับข้าว ซื้อโอเลี้ยง ซื้อส้มตำ
' w% J( ]' l0 ]3 q
32.ครูสนใจ เด็กที่เรียนพิเศษด้วยมากกว่า&F0 b/ g

33.ช่องว่างระหว่างครูและเด็ก เยอะมาก เนื่องจากจำนวนเด็กในห้อง เฉลี่ย 50 ขึ้น ครูจำนักเรียนได้ไม่หมด ยิ่งครูแก่ๆก็....
34.รร. นานาชาติ มีความผูกพัน กับครูที่สอน ทั้ง รร.รักกันดี,
35.บางคนเกรด 4.00 สอบไม่ติดก็มี เพราะการศึกษาไทย
เก็บคะแนนสอบแค่ 15-30% นอกนั้นงาน การบ้านที่สั่ง

36.ครูบางคนตั้งใจสอน แต่ไม่มีเทคนิค ทำให้เด็กเบื่อที่จะเรียน
' L0 z% W+ T  `# R+ e2 U
37.ความรู้ที่ใช้สอบ มาจากที่เรียนพิเศษ/
38.กวดวิชาแต่ละจังหวัดมากกว่า 50 แห่ง

39.ครูบางคนชอบโอ้อวดว่าจบที่นั่น เอกอย่างนี้ ได้เกียรตินิยม แต่สอนไม่รู้เรื่อง! T:  g
# y8 T. D, a5 U) s
40.เด็กในห้องมี 50 คน เก่งสุดๆแค่ 1-2 คน
7 Z( Z$ B$ }* P
41.นอกนั้น เรียนๆเล่นๆ เที่ยวๆ
2 v6 t* L* F7 ?3 G" [: b! O
42.เด็ก ม.3 สะกดคำว่า family house ศัพท์อังกฤษง่ายๆไม่ได้* u
43.โรงเรียน ประจบผู้ปกครองที่มีเงิน
44.โรงเรียนหญิงล้วน มีทอมดี้เยอะ โรงเรียนชายล้วน มีเกย์ ตุ๊ดเต็ม*
45.ต่างประเทศ เรียนวันละ 3-5 ชม. หลังจากนั้นก็สนามบาส สระว่ายน้ำ ห้องดนตรี ไม่ก็กลับบ้าน ทำกิจกรรม ไปอ่านหนังสือเอง

46.ถ้าเด็กเรียนที่ไทย ก็ไปกวดวิชา เรียนเลิก3 -4 ทุ่ม+ u!
3 }* v, C! O, w4 m5 ?; }) i) _

47.เด็กเที่ยวนั่งรถไฟฟ้าไปสยาม

48.เด็กใส่แว่นเนื่องจากเล่นคอม มากกว่าเรียน

49.ครูคาดหวังกับเด็กห้องคิงเกินไป ทำดีนิดหน่อย ชมเว่อร์ๆ*
ทำผิดนิดเดียว คือเรื่องคอขาดบาดตาย2 `4 t: \$ k' ^
) q3
50.เอาใจใส่เด็กแต่ละห้องไม่เท่ากัน
3 J: a; _* n+ L0 y- c5 w& x. A
51.รร.รัฐ ให้เด็กทำป้าย เดินรณรงค์ยาเสพติด เลือกตั้ง ฯ
ตามนโยบาย ทำเอาหน้าตา รร. เด็กต้องเดิน 2-3กิโล แดดก็ร้อน หน้ามือเป็นลม8 O9 [

52.วิชาอาจารย์ฝรั่ง ดูเหมือนจะมีความสุข จะหลับก็ได้ คุยกันไป8 d1
แต่ก็เรียนไม่รู้เรื่อง

53.เด็กไทยอวดฉลาด
# Z8 h, S1 M4 Z8 i* X& }7 y* Q7 p
54.เด็กไทยตามกระแส แฟชั่น
1 I& H) \. H3 W4 T8 D
55.เด็กไทยบ้าเที่ยว บ้าเรียน บ้าใช้เงิน บ้าดารา3 X* N

56.วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เป็นธรรมดา;

57.ท้อง แท้ง ฆ่าตัวตาย ใจแตก ติดยา คือ ปัญหาวัยรุ่นไทยที่แก้ไม่ได้
) I) U3 s9 {' J  O
58.เด็กส่วนใหญ่ฝันมี รร.ที่กว้าง ต้นไม้ สบายๆ บรรยากาศดี การเรียน สนุก$ S: V! B& G6 z
มีกิจกรรมทำ7 i

59.ความฝันห่างไกลความจริง รร. อากาศร้อนไม่มีพัดลม เสียงรถที่ถนนดัง
ห้องเรียนติดห้องน้ำ ครูสอนก็ดุ แก่ โหดคะแนน น่าเบื่อ ครูลามก

60.มีพ่อแม่ บังคับ อนาคตวาแผนให้ลูกเสร็จสรรพ โดยไม่ถามว่าลูกชอบหรือไม่

61.พ่อแม่ชอบกดดัน ซึ่งความจริงในยุคนี้ การเลี้ยงลูกแบบนี้ หัวโบราณมากM. ]$ {& A! K

62.ไฮโซ ต้องให้ลูกเรียนเอกชน นานาชาติ รร.รัฐสุดโด่งดัง
63.ไปเรียนพิเศษต่างประเทศ ตอนปิดเทอม
64.รู้ไหม คนต่างชาติคิดว่า วัยรุ่นไทยที่รวย พ่อแม่ คุณทำงานใหญ่โต/
นักการเมือง นักธุรกิจส่งลุกมาใช้เงิน นั้น เค้าคิดว่า พ่อแม่คุณคอรัปชั่น
และคุณทำตัวไร้สาระ
, \; o3 x1 D; F/ A2 v- N" P1 F
65.ประเทศไทยเป็นประเทศด้อยพัฒนา แต่เรียกตัวเองว่า กำลังพัฒนา
+ X, ]9 ]& e9 Z5 W3 m) K* _
66.วัยรุ่น ไม่เคารพผู้ใหญ่ ด่าได้ก็ด่า ก็พ่อแม่ฉันยังไม่ว่า คุณเป็นใครมาว่า0

67.แต่งตัว ใช้เงิน ซื้อของอวดกัน

68.ตบกันแย่งผู้หญิง ผู้ชาย ทอมดี้ เกย์; W
69.มีเพื่อนในชีวิตจริงและสังคมอินเตอร์เน็ต

70.เล่นเกมออนไลน์ เล่นmsn ทุกวัน หลับดึก
$ z  U9 J# o: }$ r' U/ W
71.เที่ยวจัด จนบางวันไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้มีสอบ เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน
ที่ห้องน้ำ รร.แล้วเข้าสอบ ก็มี$
1 r7 s. C2 K1 ~; w
72.พ่อแม่เลี้ยงลูกดีเกินไป แย่เกินไป โอ๋ลูกเกินไป ด่าลูกเกินไป เด็กเก็บกด

73.เด็กที่ไม่ได้รับการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่แย่
74.ครูแนะแนว ตือครูที่เด็กชอบมากที่สุด

75.เด็กไทย เกรด 4.00 เอ็นเข้าคณะอินเตอร์ไม่ติด เด็กนานาชาติไม่เก่งเท่าเด็กรัฐบาล แต่นั่งฝนข้อสอบฉลุย เมื่อจะเอ็นเข้าคณะอินเตอร์
  l- l
76.ต่างประเทศ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เรียนน้อยกว่าไทย แต่ทำไมฉลาดกว่า8 |
มีคุณภาพกว่า?
  ]
77.เด็ก คืออนาคตของชาติ แต่มีตัวอย่างบุคคลชั้นนำของประเทศที่เห็นได้ตามหน้า หนังสือพิมพ์ว่า...แค่ไหน เป็นแบบนี้ คุณยังจะหวังอะไรกับเด็กไทยศตวรรษที่ 21 อย่างเราไหม

78.วัยรุ่นไทยไม่อยากรับรู้เรื่องข่าวสารของประเทศไท ยที่มีแต่อะไรที่ชวนทำให้~  }
น่าเบื่อ เกิดการแอนตี้ ไม่อยากรู้

79.เด็กไทยไปโรงเรียน และ มหาวิทยาลัย จากการสำรวจแล้ว พบว่า
ปัจจัยคือ เพื่อน เท่านั้น4
. R; D% a6 S$ F% j4 w$ b9 F
80.โลกก้าวหน้าไปทุกวัน แต่การศึกษาไทย ยังอยู่กับที่
2\


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2239599#ixzz1UXGdxEVN

จัดอัยดับชุดประจำชาติสุดเจ๋ง

อันดับ 10

ชุดใส่สบายๆตรงกับวิถีชีวิต แต่ตกแต่งด้วยลวดลายสีสันจัดจ้านพร้อมผ้าคาดผมเข้าชุด
ชุดคาฟทาน จากประเทศเซเนกอล Senegal

อันดับ 9

ชุดประจำชาติคาซัคสถาน สวยแปลก เปลี่ยนการแต่งตัวตามโอกาสและงานสำคัญด้วยเครื่องประดับศีรษะ
เช่นงานแต่งงานก็จะใส่หมวกใบสูง ส่วนงานประจำฤดูหนาวก็จะเป็นหมวกขนสัตว์สีขาว เป็นต้น

อันดับ 8

ชุดประจำชาติของประเทศโครเอเชีย Croatia
ชุดสีขาวแขนขาว กระโปรงยาว และผ้าตกแต่งศีรษะ สีสรรจะมีสีขาว ฟ้า และ เหลือง ตามเทศกาลที่ต้องใส่ค่ะ มีผ้ากันเปื้อนด้วย!

อันดับ 7

ชุดประจำชาติมาเลเซีย เรียกว่า Baju Melayu & Naju Kurung สำหรับทั้งชายและหญิง
อลังการงานสร้าง ส่วนมากจะใช้สีเดียวทั้งเสื้อและกระโปรง/กางเกง เสื้อผู้ชายก็ตัวยาวเกือบเหมือนกระโปรง
แต่ไม่ยาวเท่าโสร่งของพม่าค่ะ หรือบางทีเป็นเสื้อสั้น แต่เอาผ้าลายคล้ายผ้าขาวม้ามาคาดเอวสวยๆแทนค่ะ

อันดับ 6

ชุดชาวอาหรับ Jellabiya ของอียิปต์ Egypt ค่ะ
ชุดยาวตัวโคร่ง สีขาวหรือสีเรียบๆ ปิดแขนปิดขา บ่อยครั้งเวลาออกเดินทางจะมีผ้าคลุมศีรษะผืนโต เพื่อให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศประเทศแถบทะเลทรายและคาบสมุทรอาหรับค่ะ

อันดับ 5

ชุด Salwar Kameez จากปากีสถาน Pakistan ซึ่งอาจคล้ายกับชุดประจำชาติอินเดีย
แต่แตกต่างกันที่ชุด Salwar Kameez จะมีกางเกงค่ะ ส่วนเสื้อก็จะยาวลงมาคล้ายชุดกระโปรงค่ะ
กางเกงมีทั้งแบบในรูป หรือแบบสกินนี่ก็มีค่ะ

อันดับ 4

ชุด Deel จากประเทศมองโกเลีย Mongolia
เป็นชุดที่ใส่กันมาเป็นพันๆปีแล้วตั้งแต่สมัยก่อนค่ะลักษณะคล้ายๆกับเสื้อโค้ด คือป้ายซ้ายป้ายขวาแล้วติดกระดุมหน้าค่ะ
เหมาะกับอากาศหนาว และง่ายต่อการใส่แถมเก็บของได้เยอะด้วยค่ะ ในภาพจะเป็นชุดประจำชาติแบบเต็มพิกัด
แต่ประชาชนทั่วไปก็ใส่แบบนี้ค่ะ เพียงแต่ไม่มีมงกุฎแบบนี้ และเนื้อผ้าของ Deel ก็จะไม่หรูหราเท่านี้่ค่ะ (อิทธิพลจากเมืองจีนเต็มๆเลยค่ะ)

อันดับ 3

ชุดประจำชาติจากประเทศสวีเดน Sweden
ใครแต่งแล้วก็แปลงร่างเป็นตุ๊กตาได้ทันทีเลยค่ะ น่ารักเหมือนหลุดออกมาจากบ้านสวนยังไงอย่างงั้น

อันดับ 2

ชุดกิโมโน จากประเทศญี่ปุ่น Japan ค่ะ
ชุดกิโมโนบางชุดมีราคาแพงถึงหลายล้านเยน เพราะเส้นด้ายที่นำมาทำรวมไปถึงบุคคลที่ออกแบบลายผ้าค่ะ
ลายผ้าของกิโมโนจึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้กิโมโนแต่ละชุดมีความพิเศษขึ้นมา และวิธีการใส่กิโมโน ก็ไม่ใช่ว่าใครก็จะใส่ได้นะคะ
ต้องผ่านการสอนก่อน ไม่เช่นนั้นจะใส่ลำบากมากๆ และชุดกิโมโนเป็นชุดที่ไม่สามารถแต่งได้ด้วยตนเองค่ะ ต้องมีคนช่วยอีกคนนึงให้ชุดกิโมโนแน่น ยกเว้นกรณีการผูกเงื่อนโอบิ (ผ้าคาดเอว) แบบสมัยใหม่ซึ่งประยุกต์ให้แต่งกิโมโนเองได้ เพื่อความสะดวกค่ะ

อันดับ 1

ชุดสาหรี่ จากประเทศอินเดีย India
เป็นชุดประจำชาติที่ปัจจุบันคนอินเดียก็ยังใส่อยู่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้ แถมยังไม่ใช่เวอร์ชั่นประยุกต์สำหรับใส่ในวันปกติด้วย
แต่เป็นเวอร์ชั่นปกติ ซึ่งเน้นลวดลายผ้าที่สวยงาม การใส่นั้นจะมีเสื้อตัวในก่อนแล้วพันด้วยผ้าสาหรี่ผืนเดียว ไล่จากเอวและสะโพกไล่ตวัดขึ้นมาช่วงตัวบนและตวัดครั้งสุดท้ายที่ไหล่ การแต่งตัวด้วยผ้าสาหรี่ที่ถูกต้อง ผ้าจะไม่หลุดและการเดินเหินจะสบายไม่สะดุดผ้าส่วนที่ทิ้งพาดที่ไหล่ไว้ค่ะ


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2240122#ixzz1UXDG2MOl

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เปรี้ยวๆ ชิคๆ กับเทรนด์ถุงเท้า+รองเท้าเปิดส้น

ช่วงนี้ถ้าสาวๆเห็นใครใส่ถุงเท้ากับรองเท้าเปิดส้นล่ะก็ อย่าเพิ่งไปขำแล้วแอบเม้าท์เค้าว่าเช๊ยเชยนะคะ เพราะตอนนี้เทรนด์ แมทช์ถุงเท้ากับรองเท้าเปิดส้นเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมอย่างมากเลยล่ะค่ะ ไม่เชื่อก็ลองสังเกตแฟชั่นบนแคทวอล์คดูสิคะ มีหลายๆโชว์ที่นางแบบใส่ถุงเท้าสีสวยคู่กับรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้ารัดข้อแบบเปลือยส้นเด็กดีดอทคอม :: เปรี้ยวๆ ชิคๆ กับเทรนด์ถุงเท้า+รองเท้าเปิดส้น
สาวๆ อาจจะรู้สึกว่าเทรนด์นี้ดูแปลกๆ แถมยังไม่ค่อยเข้ากับวัยรุ่นอย่างเราๆ เพราะส่วนใหญ่จะเห็นแต่คุณป้าคุณแม่ชอบใส่ถุงเท้ากับรองเท้าคัตชูหรือรองเท้าเปลือยส้น ซึ่งสาเหตุที่ใส่ก็เพราะว่ากันไม่ให้ส้นเท้าแห้งแตก ...

  เมื่อก่อนอาจจะดูเชยก็จริง แต่วันนี้ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ เพราะตอนนี้กระแสการแมทช์ถุงเท้ากับรองเท้าเปลือยส้นกำลังอินเลยทีเดียวล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้นส้นสูง รองเท้าเปลือยเท้าแบบรัดข้อ หรือรองเท้าส้นสูงแบบสายเป็นสานๆ ความเก๋ของเทรนด์นี้อยู่ทีความจี๊ดจ๊าดสดใสของถุงเท้าที่เราเลือกมาแมทช์กับรองเท้าค่ะ อย่างเมื่อก่อนเราจะเห็นคุณแม่คุณป้าใส่แต่ถุงเท้าสีเรียบๆ พื้นๆ แต่เดี๋ยวนี้ถุงเท้าสีสดๆ หรือโทนสีแปลกตา ที่ไม่ค่อยได้เห็นก็ถูกผลิตออกมาวางขายมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังแบบที่มีลวดลายน่ารัก แบบเป็นตาข่ายหรือผ้าลูกไม้ก็ดูหวานแหววน่ารักใช่ย่อยเลยล่ะคะ ยิ่งได้มาใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงแบบที่มีสายคาด แบบสาน หรือแบบที่เปลือยส้นเท้าและนิ้วเท้า กูดูเข้ากันได้ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ ไม่หลงเหลือความเชยเอาไว้ให้เห็นเลย แถมยังดูเก๋และชิคสุดๆ อีกด้วยนะเนี่ย! 
     เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อนนะคะสาวๆ ถ้าสาวๆ อยากจะลองเปรี้ยวเก๋กับแฟชั่นนี้ล่ะก็ แนะนำว่าสาวๆ น่าจะลองจับคู่ถุงเท้าและรองเท้าที่มีสีที่ดูเป็นโทนสีที่กลมกลืนกัน เช่น น้ำตาล - ส้มอ่น น้ำเงิน - ม่วง เขียวขี้ม้า - เหลือง แต่ถ้าอยากเปรี้ยวเฉี่ยวล่ะก็ ลองเลือกถุงเท้าสีสดๆ หรือลายเจ็บๆ ก็โอเคเลยนะคะ
เด็กดีดอทคอม :: เปรี้ยวๆ ชิคๆ กับเทรนด์ถุงเท้า+รองเท้าเปิดส้น
สำหรับขนาดของถุงเท้าที่พอเหมาะก็คือจะต้องมีความยาวปิดข้อเท้าไป ส่วนจะยาวสูงขึ้นไปถึงน่องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าที่เราใส่ค่ะว่าเป็นกางเกงหรือกระโปรงที่มีความยาวในระดับไหน และเติมความเก๋มากขึ้นด้วยการสวมถุงเท้าแบบยาว แต่ดึงลงมาให้ย่นเล็กน้อยที่ข้อเท้าก็ดูน่ารักดีเหมือนกันค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: เปรี้ยวๆ ชิคๆ กับเทรนด์ถุงเท้า+รองเท้าเปิดส้น
เด็กดีดอทคอม :: เปรี้ยวๆ ชิคๆ กับเทรนด์ถุงเท้า+รองเท้าเปิดส้น

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/content/girl/25617/เปรี้ยวๆ-ชิคๆ-กับเทรนด์ถุงเท้ารองเท้าเปิดส้น-.php#ixzz1TZxDmeb7

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

3 เรื่อง ที่คนถนัดซ้ายควรรู้

 สมอง ถือว่าเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าหัวใจ หรืออวัยวะอื่นๆ ในร่างกายเลย โดยสมองจะแบ่งออกเป็นซีกซ้าย – ซีกขวา ทำหน้าที่แตกต่างกันไป ซีกซ้ายจะมีหน้าที่ในการวิเคราะห์ คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และรับรู้เรื่องภาษา ส่วนซีกขวาจะมีหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ ซึ่งในวันนี้พี่ปัดก็มี 3 เรื่อง ของคนถนัดซ้ายมาบอกให้น้องๆ ชาว Dek-D.com ได้รู้กันด้วยจ้ะ
เด็กดีดอทคอม :: 3 เรื่องที่คนถนัดซ้ายควรรู้
จริงหรือไม่? ที่คนถนัดมักจะซุ่มซ่ามอยู่เสมอ
           ใครหนอช่างใจร้ายมาว่าคนถนัดซ้ายว่าเป็นคนซุ่มช่ามได้ จริงๆ แล้วสาเหตุที่คนถนัดซ้ายมักจะหยิบหรือจับสิ่งของต่างๆ ไม่ถนัดนั้นเป็นเพราะสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรรไกร นาฬิกา ที่เปิดขวด พิมพ์ดีด เลื่อน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบมาให้คนถนัดขวาใช้ทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนถนัดซ้ายจะหยิบ หรือจับสิ่งของแล้วมีอาการติดขัด หรือรู้สึกเกร็งๆ บ้าง
จริงหรือไม่? ที่คนถนัดซ้ายจะอายุสั้นกว่าคนทั่วไป 9 ปี
           พี่ปัดขอตอบแบบเสียงดัง ฟังชัดเลยจ้ะว่า ไม่จริง เพราะ S. Cohen แห่งมหาวิทยาลัย British Columbia ประเทศแคนาดา ได้ทำการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของเขาเรื่อง ซ้ายอันตราย ลงในวารสาร New England Journal of Medicine ว่าในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้หรือยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงเลย ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนถนัดซ้ายเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยนั้น เป็นเพราะอุปกรณ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้คนถนัดขวาได้ใช้มากกว่าจ้ะ แต่พี่ปัดขอกระชิบบอกคนถนัดซ้ายอีกนิดว่าคุณอาจจะมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะและลำไส้ได้บ้างนะจ๊ะ
จริงหรือไม่? ที่คนถนัดซ้ายจะมีความทะเยอทะยาน และประสบความสำเร็จ
           อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะจ๊ะ ว่าสมองจะสั่งการตรงข้ามกับด้านที่เราถนัด ดังนั้นในกรณีของคนที่ถนัดซ้าย สมองซีกขวาก็จะทำงานมากกว่าสมองซีกซ้าย ซึ่งสมองซีกขวามีหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ จึงทำให้คนถนัดซ้ายนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างสรรค์และต่อยอดในการทำงานด้านต่างๆ

           ยังไม่หมดแค่นี้นะจ๊ะ พี่ปัดยังมีเกร็ดความรู้ดีๆ มาฝากอีกนิด บนโลกใบนี้ของเรามี “วันสากลคนถนัดซ้าย” ด้วย ฟังไม่ผิดหรอกจ้ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com โดยวันสากลคนถนัดซ้าย จะตรงกับวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี เริ่มต้นมีครั้งแรกในปี ค.ศ. 1976 โดยกลุ่มชาวสหรัฐอมริกากลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบมา ผู้นำของประเทศสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันก็ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ถนัดซ้ายด้วยนะจ๊ะ


ไม่ว่าจะเป็นคนถนัดซ้าย หรือถนัดขวา ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ขอเพียงเรารู้จักใช้สมองทั้งสองซีก ให้ผสมผสาน และสมดุลกัน
ทั้งในเรื่องของการคิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์จินตนาการ และรู้จักนำสิ่งดีๆ เหล่านั้น
แสดงออกมาให้คนอื่นได้เห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวเราก็เพียงพอแล้ว


เครดิต : http://www.dek-d.com/content/lifestyle/25596/ถนัดซ้าย-ซ้าย-left-มือ.php#ixzz1TYcTkKjS